Tuesday, September 6, 2016

ชุมชนริมน้ำฝั่งธนบุรี ความแตกต่างที่กลมกลืน

 ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบโบสถ์ซางตาครู้ส อันเป็นศูนย์รวมศรัทธาของคริสต์ศาสนิกชน
ประจิตร ป้อมอรินทร์ ...เรื่องและภาพ
ผลงานสารคดีจากผู้เข้าอบรมในโครงการอ.ส.ท. to the regions # 5 ภูมิภาคภาคกลาง

            หลังจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชกอบกู้เอกราชจากพม่าสำเร็จ พระองค์ทรงย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยาที่ชำรุดทรุดโทรมจากศึกสงคราม มายังเมืองธนบุรีซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ และมีรับสั่งให้รวบรวมชาวบ้านที่กระจัดกระจายจากภัยสงคราม อพยพมายังราชธานีแห่งใหม่นี้ รวมทั้งพระราชทานที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรีให้ชาวบ้านและทหารที่ร่วมกันกอบกู้เอกราชจนสำเร็จ โดยบางส่วนเป็นชาวต่างชาติ ทั้งชาวจีนและชาวโปรตุเกส ยังผลให้ชาวบ้านบริเวณนี้มีความแตกต่างทั้งในด้านประเพณี วัฒนธรรม และศาสนา
            
เด็กหญิงมุสลิมนั่งเล่นบริเวณชุมชนมัสยิดต้นสน
          เป็นเวลากว่า ๓๐๐ ปีที่ชาวบ้านชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรีสืบทอดเชื้อสายมารุ่นแล้วรุ่นเล่า แม้จะมีหลากศาสนา หลายความเชื่อ แต่ศาสนสถานของแต่ละศาสนาก็ตั้งอยู่บริเวณใกล้กันอย่างน่าประหลาดใจ ได้แก่ วัดประยุรวงศาวาสฯ วัดกัลยาณมิตรฯ โบสถ์ซางตาครู้ส ศาลเจ้าเกียนอันเกง มัสยิดต้นสน และมัสยิดบางหลวง
           
 องค์เจ้าแม่กวนอิมภายในศาลเจ้าเกียนอันเกง อันเป็นที่เคารพของชาวไทยเชื้อสายจีน
 นักเรียนศาสนาอิสลามกำลังละหมาดบูชาอัลลอฮ์ภายในมัสยิดต้นสน
 ศิลปะโมเสกรูปพระแม่มารีย์และพระเยซูเจ้าบนผนังบ้านหลังหนึ่งในชุมชนกุฎีจีน
             
 ซอยทางเข้าศาลเจ้าเกียนอันเกง ศูนย์รวมศรัทธาของชาวไทยเชื้อสายจีน
          
           ศาสนิกชนของแต่ละศาสนาล้วนประกอบศาสนพิธีตามความเชื่อของตน แต่หากวันใดมีกิจกรรมที่ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย เช่น การจัดนิทรรศการเผยแพร่ความรู้ หรือการออกร้านขายของขึ้นชื่อในเทศกาลต่างๆ ชาวบ้านทั้ง ๖ ชุมชนจะเข้าร่วมโดยไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือแบ่งศาสนา
            
              จึงกล่าวได้ว่า ในช่วงระยะเวลากว่า ๓๐๐ ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเกิดการทะเลาะเบาะแว้งเรื่องศาสนา ไม่มีการดูถูกเหยียดหยามศาสนาของผู้ใด ชาวบ้านทุกคนอาศัยร่วมกันอย่างสันติ เคารพความเชื่อความศรัทธาของผู้อื่น

ในยุคปัจจุบันที่บางคนใช้ศาสนาเป็นข้ออ้างและเครื่องมือสำหรับการแบ่งแยกทำลายความสามัคคี จะมีใครบ้างที่รู้ว่ายังมีอีกหลายคนใช้ชีวิตท่ามกลางความแตกต่างอย่างกลมกลืนมานานหลายศตวรรษ


No comments:

Post a Comment