Monday, September 5, 2016

Santa Cruz กางเขนศักดิ์สิทธิ์ ...ศูนย์รวมสัตบุรุษผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อ




ศศิลักขณ์ พิจิตรวรการ...เรื่องและภาพ
รางวัลชมเชยเนื้อหาสารคดีสร้างสรรค์ ในโครงการ อ.ส.ท. to the regions # 5

            
        กุฎีจีน ชุมชนอันประกอบด้วยผู้คนหลากศาสนาหลายความเชื่อ สถาปัตยกรรมนานา ดึงสายตานักท่องเที่ยวให้มาร่วมค้นหาความความงดงามและการอยู่ร่วมกันบนพื้นฐานความแตกต่าง

อีกหนึ่งศาสนสถานที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาดสาย คงจะไม่พ้น โบสถ์ซางตาครู้ส กางเขนศักดิ์สิทธ์ ศูนย์รวมจิตใจชาวคริสตชนท้องถิ่น ที่นอกจากความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมแล้ว ประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นอีกหนึ่งความงดงามที่ชาวบ้านยังคงจดจำและระลึกถึงอยู่เสมอ
           
 ลุงเล็ก 

           การมาเยือนที่นี่ทำให้ฉันรู้จักกับคุณลุงเล็ก ปฏิภาณ สุวรรณศิริ ผู้บรรเลงระฆังประจำโบสถ์ ที่ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับคุณพ่อ กูเลียลโม กิ๊น ดาครู้ส ผู้สร้างโบสถ์ซางตาครู้สหลังปัจจุบันที่อยู่คู่ชุมชนมายาวนานเกือบศตวรรษ

แต่เดิมพื้นที่แห่งนี้ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อตอบแทนชาวโปรตุเกสที่ช่วยชาวไทยกอบกู้เอกราช นักบวชชาวโปรตุเกสจึงสร้างโบสถ์อันเป็นที่รวมตัวของคริสตชนโรมันคาทอลิกเป็นครั้งแรก กระทั่งปี พ..๒๓๑๒ มีการสร้างโบสถ์หลังที่ ๒ โดยหลวงพ่อปัลเลอกัว มีลักษณะคล้ายศาลเจ้าจีน อยู่ในพื้นที่ซอยกุฎีจีน จึงเป็นที่เรียกขานของชาวบ้านว่า วัดกุฎีจีน
           
 คุณพ่อกูเลียลโม กิ๊น ดาครู้ส 

              ระยะเวลาผ่านไปจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖ แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี) วัดกุฎีจีนมีสภาพทรุดโทรมตามกาล งูเห่าออกอาละวาดจำนวนมากจนชาวบ้านหวาดหวั่น ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ผนวกวิสัยทัศน์อันกว้างไกล คุณพ่อกูเลียลโม กิ๊น ดาครู้ส จึงเกิดความคิดอยากสร้างโบสถ์ขึ้นใหม่ที่มีรูปทรงเป็นอาคาร
   
ลุงเล็กกล่าวว่า ย้อนกลับไปเมื่อร้อยปีก่อนถือว่าเป็นความคิดที่นอกกรอบนะ เพราะเขานิยมสร้างบ้านจากไม้ คนพื้นที่จึงไม่ค่อยรับรู้เกี่ยวกับจินตนาการที่ท่านคิดสักเท่าไรนัก
           
เมื่อเกิดความคิดริเริ่ม หลวงพ่อจึงรอนแรมไปเทศนายังประเทศรอบบ้านเป็นเวลานาน เพื่อสะสมเงินทุนสำหรับสร้างวัด หากเงินไม่พอก็ออกไปตระเวนหาเพิ่มอีก การสร้างจึงดำเนินไปทีละเล็กน้อย โดยมีเพื่อนสถาปนิกชาวอิตาเลี่ยน ช่วยในขั้นตอนการก่อสร้าง คุณพ่อบันทึกเหตุการณ์แต่ละขั้นตอนลงในบันทึกของวัด จนกระทั่งโบสถ์แล้วเสร็จในปี พ..๒๔๕๙ รวมระยะเวลาทั้งสิ้น ๒ ปี ๓ เดือน
           
 หลุมฝังศพคุณพ่อกูเลียลโม กิ๊น ดาครู้ส 

            ในยุคสงครามโลกครั้งที่ ๒ โบสถ์ซางตาครู้สได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนของระเบิด กระจกสีบานประตูและหน้าต่างโบสถ์แตกละเอียดเรี่ยราดตามพื้น ชาวบ้านละแวกนั้น เห็นคุณพ่อกูเลียลโมที่ชราภาพมากในขณะนั้น ก้มเดินเก็บเศษกระจกพร้อมน้ำตา เป็นภาพสะเทือนใจผู้ศรัทธาเป็นอย่างมาก
           
คุณพ่อกูเลียลโม กิ๊น ดาครู้ส ใช้ทุกช่วงเวลาของชีวิตเดินบนเส้นทางพระเจ้าอย่างมีเกียรติเป็นเวลาร่วม ๙๕ ปี คุณพ่อกูเมียลโล กิ๊น ดาครู้ส ถึงแก่มรณภาพในปี พ..๒๔๙๘
           
หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ทำให้ฉันเกิดคำถามว่า หากหลวงพ่ออยู่ตรงหน้า ณ เวลานี้ ลุงอยากบอกอะไรกับเขา
           
ขอบคุณ... ขอบคุณจริงๆ จากน้ำเสียงที่สั่นเครือของลุงเล็ก ฉันสัมผัสถึงได้ความอิ่มเอมหัวใจของสัตบุรุษคนหนึ่ง สถานที่แห่งนี้ไม่เป็นเพียงศูนย์รวมจิตใจ หากแต่เป็นศาสนสถานที่รวมผู้กระทำสิ่งต่าง ๆ โดยความเชื่อ แม้จะมีข้อจำกัดบนโลกเป็นอุปสรรค ความบากบั่นจะเป็นกุญแจสำคัญสรรค์สร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ กลายเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนยุคสมัย แม้อาจมองไม่เห็นผลในบั้นปลาย แต่ทุกช่วงเหตุการณ์ย่อมมีเวลาที่สวยงามในตัวของมันเองเสมอ



No comments:

Post a Comment