Tuesday, September 20, 2016

แสงแดด สายลม ตกภวังค์


เจษฎา เพชรดาวงค์... เรื่องและภาพ
ผลงานสารคดีจากผู้เข้าอบรมในโครงการ อ.ส.ท. to the regions # 5 ภูมิภาคภาคกลาง

แสงแดดเวลาใกล้เที่ยง ทำให้ผมอ่อนแรงจากการเดินถ่ายภาพแถบชุมชนกุฎีจีนเป็นยิ่งนัก ผ่านมาที่หน้าวัดซางตาครู้ส มีศาลาริมแม่น้ำเจ้าพระยาหลังน้อย ต้องขอหลบเข้าไปนั่งพักเพื่อให้คลายความร้อนที่ระอุอยู่ในกาย ก่อนที่ลมแดดจะหอบพาให้หมดสติไปเสียก่อน
           
               “งามหนักนัก” ผมอุทานในใจ เมื่อเริ่มสอดส่ายสายตาสำรวจศาลาทรงวิคทอเรียขนมปังขิง ที่มีจัตุรมุข ๔ ด้าน ลวดลายที่ฉลุลงบนไม้สักประดับหน้าจั่วและซุ้มประตู ช่างดูงดงามสมราคาฝีมือช่างเมื่อกว่าร้อยปีก่อนเป็นยิ่งนัก
                 

                
             อาการโอเวอร์ฮีทในกายเริ่มผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ยังไม่ทันได้พักจากชื่นชมศิลปะงานไม้ฉลุ ก็ได้แว่วเสียงออร์แกนพร้อมเสียงร้องสอดประสานมาตามลม วันนี้เป็นวันอาทิตย์นี่นะคงจะเป็นกิจกรรม ของศาสนิกชนชาวคริสตัง ในแถบชุมชนกุฎีจีนที่มาร่วมร้องเพลงนมัสการพระเจ้าเป็นแน่
               
                ใต้หลังคาหน้าประตูโบสถ์ อากาศบริเวณนี้รู้สึกได้เลยว่าเย็นเหมือนติดแอร์ ยังจำได้บรรยากาศช่างเหมือนกับเวลาที่เราเคยไปนั่งเล่นที่ชายคาโบสถ์วัดระฆังฯ ผมเป็นพุทธศาสนิกชน ยามใดที่รู้สึกเหนื่อยล้ากับการงานหรือชีวิต ก็มักจะไปนั่งรับอากาศเย็นๆ ที่ชายคาโบสถ์ทุกครั้งไป เพราะมันเย็นเข้าไปถึงจิต เย็นเข้าไปถึงหัวใจ
            

               
                 จากม้านั่งยาวแถวสุดท้าย ผมค่อยๆ ขยับกายกระดืบกระดืบขึ้นไปทีละแถว เพื่อมิให้เป็นการรบกวนสมาธิของสมาชิกนักร้องประสานเสียง ที่กำลังซ้อมกันอย่างจริงจังขะมักเขม้น หวังว่าจะได้บันทึกภาพพวกเขาในมุมสวยงาม และก็ได้พื้นที่ดีที่สุดสำหรับการนั่งฟังเพลงประสานเสียง อันแสนไพเราะ เย็นจับใจ ชวนให้เคลิบเคลิ้มจนตกภวังค์ 

                 นานเท่าใดไม่รู้ แต่รู้ตัวอีกทีเพราะต้องรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด


             ตี๊ดดด.. ตี๊ดด.. เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้น  เสียงออร์แกนเสียงร้องเพลงที่แสนไพเราะเมื่อสักครู่พลันหายไป ผมตื่นจากภวังค์ ด้วยหางตาผมเห็นสายตาหลายคู่ จับจ้องมาที่ผม  

        วิ่งสิครับรออะไร?


No comments:

Post a Comment