![]() |
การสาธิตประกอบพิธีกรรมเสียเคราะห์ |
พิมลรัตน์
วรรณพัฒน์... เรื่องและภาพ
ผลงานจากผู้เข้าอบรมในโครงการ อ.ส.ท. to the regions # 3 ภูมิภาคภาคอีสาน
ชุมชนสาวะถีเป็นชุมชนที่เก่าแก่เมื่อประมาณ
๒๐๐ กว่าปีที่แล้ว
จากเรื่องราวคำบอกเล่าของพระครูบุญชยากร
เจ้าคณะตำบลสาวะถี เจ้าอาวาสวัดไชยศรี บ้านสาวะถี หมู่ที่ ๘ ตำบลสาวะถี อำเภอเมืองฯ
จังหวัดขอนแก่น ซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้มา ๒๗ พรรษา กล่าวว่าเมื่อประมาณปี พ.ศ.
๒๓๐๐ เศษๆ มีผู้คนย้ายถิ่นฐานมาจากแถวๆ บ้านทุ่ม มาอาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งมีลักษณะเป็นเมืองเก่าอยู่แล้ว
แต่สมัยก่อนยังไม่มีใครมาอาศัยอยู่ใกล้วัด เมื่อประชากรมากขึ้นจึงขยับขยายกันออกมาใกล้ๆ
วัด
![]() |
พระครูบุญชยากร เจ้าอาวาส |
คำว่า “สาวะถี” มาจากคำว่า สาวัตถี
ซึ่งหมายถึงเมืองคนดี มีใจงาม นามเมืองพุทธ แต่สมัยก่อน ทางอำเภอคงเขียนผิด
เลยกลายมาเป็นคำว่า “สาวะถี” แทน ไม่ได้มีความหมายอันใดในพจนานุกรม (เรื่องเล่าบางเรื่องท่านก็ได้มาจากหลวงปู่อ่อนสา
ซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดเท่าที่มีหลักฐานปรากฏ)
![]() |
สิมวัดไชยศรี |
สิ่งที่โดดเด่นของชุมชนแห่งนี้ คือวัดไชยศรี
ซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายการตั้งวัด พ.ศ. ๒๔๐๘
ด้วยความศรัทธาและจิตวิญญาณของชาวบ้าน โดยมี “สิม” หรืออุโบสถ
(เขตที่พระสงฆ์ใช้ประชุมทำสังฆกรรม)ของวัดตั้งเด่นเป็นสง่า
เพราะเป็นสิมทึบแบบพื้นบ้านอีสานไทย โดยมีประตูด้านหน้าเพียงด้านเดียว
ก่ออิฐถือปูน ผนังด้านข้างมีหน้าต่าง ๓ ช่อง เป็นหน้าต่างจริง ๑ ช่อง
ผนังด้านหลังปิดทึบ มีหน้าต่างหลอก ๓ ช่อง หลังคาทรงจั่ว
![]() |
ประตูด้านหน้าของสิม |
![]() |
ฮูปแต้มหรือจิตรกรรมฝาผนังบนผนังด้านนอกของสิม |
ผนังด้านนอกและด้านในมีภาพจิตกรรมฝาผนังหรือ “ฮูปแต้ม”
เป็นเรื่องพุทธประวัติและวรรณกรรมพื้นบ้านเรื่องพระเวสสันดรชาดก
สินไซ(สังข์ศิลป์ชัย) ภาพเทพ ภาพบุคคลและสัตว์ ภาพนรก ใช้สีฝุ่นวรรณะเย็น คือ
สีคราม สีเหลือง สีขาว สีเขียว สีน้ำตาลและสีดำ
ด้วยความที่ชุมชนสาวะถีเป็นชุมชนเก่าแก่
จึงมีวิถีความเชื่อที่สืบต่อกันมาอย่างเช่น พิธีเสียเคราะห์ หมายถึงการทำให้หมดเคราะห์
หมดโศก โดยจะมีหมอพราหมณ์มาทำพิธีให้ ที่บ้านสาวะถีจะจัดเป็นพิธีใหญ่ ชาวบ้านมาทำพร้อมๆ
กัน ในวันสงกรานต์ แต่เนื่องด้วยผู้เขียนมาไม่ตรงกับช่วงงานนั้น
จึงเห็นเพียงภาพจำลองของการจัดทำพิธีเสียเคราะห์ ซึ่งจริงๆ แล้ว สามารถทำได้ตลอดปี
(ส่วนมากจะทำในวันอังคาร เพราะถือว่าเป็นวันแข็ง) เมื่อเกิดสิ่งไม่ดีขึ้นกับชาวบ้าน
เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้นั่นเอง
![]() |
พ่อคำไส อ่อนทุม |
![]() |
กระทง ๙ ห้อง |
ผู้เฒ่าที่เป็น ผู้มาทำพิธีและให้ข้อมูลในวันนี้ ก็คือพ่อคำไส
อ่อนทุม อายุ ๗๘ ปี เกิดเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๑ ปีขาล อยู่บ้านเลขที่ ๙๘ หมู่ ๘
ตำบลสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น สิ่งที่นำมาประกอบพิธีเสียเคราะห์ของชาวบ้านเพื่อบูชาเทวดา
กระทง ๙ ห้องที่ทำมาจากกาบกล้วย ภายในประกอบด้วยต้นว่า ข้าวดำ ข้าวแดง แกงส้ม
แกงหวาน ข้าวขาว ทุงซ่อ ทุงไชย ทุงดำ ทุงแดง ทุงเหลียง ทุงขาว เสดตะสัด พัด จำมอน
รูปแร้ง รูปกา รูปหมู รูปหมา รูปควาย รูปคน กล้วย อ้อย หมาก พลู บุหรี่ เหล้า ยา
ปาปิ้ง ปาจี่ เข้าเปียก เข้าสาน ข้าวตอก ดอกไม้
"เสียเคราะห์ เสียโศก เสียโรค เสียภัย
เสียสิ้น เสนียดจัญไร เสียใจ เสียศูนย์
ปล่อยไปกับกระทงกล้วยด้วยอาดูร
ช่วยเพิ่มพูนความสุขคืนสู่ใจ"
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีก็จะนำกระทงไปวางไว้ที่ทางสามแพร่ง
ซึ่งเป็นเรื่องราวของความเชื่อในชุมชนแห่งนี้ และในอีกหลายๆพื้นที่ในภาคอีสาน
แต่ถ้าใครอยากจะเข้าถึงบรรยากาศของพิธีเสียเคราะห์นี้จริงๆ
คงต้องมาในช่วงสงกรานต์แล้วละค่ะ
ชุมชนเก่าแก่ที่เป็นแหล่งรวมอารยธรรมนี้
ยังมีอะไรๆ ที่น่าสนใจและให้ค้นหาอีกเยอะ ฉันเชื่อว่าการเดินทางมาในครั้งนี้
เป็นเพียงการเริ่มต้นเรียนรู้สำหรับที่นี่เท่านั้น และนั่นหมายความว่าฉันต้องได้กลับมาเยือนอีกแน่นอน
ข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม : http://www.citizenthaipbs.net/node/518 และ
http://e-shann.com/?p=6836
No comments:
Post a Comment